loogo

สวัสดีค่ะน้องๆ พี่โย๋ ก็เป็นอีกคนหนึ่งในพี่ๆดียูอี ที่มีประสบการณ์เรียนต่อต่างประเทศโดยตรงค่ะ พี่เลยอยากจะมาแชร์เรื่องราวสำหรับน้องๆที่สนใจในเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อที่จะได้ช่วยให้น้องๆมีไอเดียคร่าวๆในการเตรียมตัวและการใช้ชีวิตในต่างประเทศค่ะ

 

อย่างแรกเลยเมื่อพี่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเรียนต่อปริญญาโท พี่ก็เริ่มหาข้อมูลและตอบคำถามตัวเองก่อนว่า “เราอยากเรียนสาขาอะไร ประเทศไหน รัฐอะไร และมหาวิทยาลัยอะไร” เมื่อพี่มีขอบเขตคร่าวๆ พี่ก็เริ่มหาข้อมูล และเตรียมตัวให้พร้อมในการสอบ TOEFL ค่ะ เมื่อได้คะแนนสอบมาแล้ว เราก็จะรู้ว่า ตัวเราและความสามารถเราเหมาะกับที่ไหน พี่จึงตัดสินใจได้ว่าจะไปเรียน ปริญญาโท สาขา Hospitality ที่ Johnson and Wales University รัฐ Rhode Island ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

หลังจากนั้นพี่ก็ทำการสมัครเรียนกับทางมหาวิทยาลัยค่ะ สำหรับปริญญาโท หลักฐานที่ต้องเตรียมจะมี ผลการเรียนระดับปริญญาตรี และคะแนนสอบ TOEFL (บางมหาวิทยาลัยต้องก็ต้องการคะแนน GMAT และประสบการณ์ในการทำงานด้วยค่ะ) นอกจากนี้พี่ก็ต้องขอจดหมายรับรองจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เรียกว่า “Letter of Recommendation” และสุดท้ายก็คือ จดหมายที่พี่ตั้งใจเขียนด้วยตัวเอง เรียกว่า Statement of Purpose ค่ะ เมื่อทางมหาวิทยาลัยตอบรับพี่แล้ว ก็เริ่มทำวีซ่าได้เลย ซึ่งวีซ่านักเรียนที่พี่ได้ก็จะครอบคลุมระยะเวลาที่พี่ต้องใช้เรียนให้จบ (สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ระยะเวลาในการเรียนปริญญาโทประมาณ 2 ปี – 2ปีครึ่ง) เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย วีซ่าออกแล้ว เราก็เริ่มเดินทางไปอเมริกากันเลย

 

เมืองที่พี่อยู่ชื่อว่า Providence ค่ะ เป็นเมืองเล็กๆสงบๆในรัฐ Rhode Island น้องๆหลายคนอาจคิดว่า เมืองเล็กๆอย่างนี้ต้องน่าเบื่อแน่ๆเลย แต่ข้อดีของที่นี่คือ อยู่ใกล้กับเมืองน่าเที่ยวหลายเมืองเลยทั้ง Boston, New York City, Atlantic City ดังนั้นเวลาที่พี่อยากไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ ก็นั่งรถไฟ Amtrak หรือรสบัส Greyhound ไปได้ หรือใครที่มีใบขับขี่สากลก็สามารถเช่ารถไปได้ง่ายๆเลยค่ะ สำหรับเรื่องการเดินทางไปในตัวเมือง พี่เลือกที่พักที่ใกล้กับมหาวิทยาลัย เลยทำให้เดินไปเรียนได้เลย แต่ถ้าต้องการเดินทางไปที่อื่นพี่ก็สามารถขึ้นรถประจำทางได้ฟรี โดยแสดงบัตรนักเรียนให้ทางพนักงานดูค่ะ สะดวกสบายและประหยัดด้วย

 

สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มีค่าที่พัก ซึ่งพี่เช่าห้องอยู่กับเพื่อนชาวต่างชาติ 2 คน ราคาเดือนละ $430 นอกจากนั้นก็มีค่าไฟเดือนละประมาณ$40 (ที่ดูเหมือนไม่สูงมากเพราะพี่แชร์กับเพื่อนสาวอีก 2 คนค่ะ) ค่าแก๊ส (เป็นส่วนของน้ำอุ่นและฮีทเตอร์) เดือนละ$30 ค่าโทรศัพท์$80 ค่าเคเบิ้ลทีวี$50 และมีค่าอื่นๆอีกเล็กน้อย ข้อเสียนิดเดียวของการเรียนที่นี่คือ นักเรียนที่นี่ไม่สามารถทำงานได้ พี่เลยต้องใช้จ่ายแบบประหยัดมากๆเลยค่ะ

 

 

เรื่องสนุกๆในอเมริกาก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลและ Event ต่างๆ ทั้ง St. Patrick, Thanksgiving, Black Friday, Halloween, Christmas และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้อเมริกายังขึ้นชื่อมากเรื่องงานลดราคาสินค้า เวลาร้านค้าและแบรนด์ต่างๆมี Sales เยอะๆ ผู้คนก็จะพากันไปต่อแถวยาวเพื่อแย่งซื้อของที่ Outlet ตั้งแต่เที่ยงคืนเลยค่ะ แต่ถึงจะสนุกทั้งการช็อปปิ้งและท่องเที่ยวพี่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยมากๆเลย โดยเฉพาะเวลากลางคืนหรือการเดินบนถนนคนเดียว ยิ่งถ้าน้องๆต้องการเรียนปริญญาโท จะมีหลายวิชาที่เปิดเฉพาะตอน 6pm-9.30 pm เพราะช่วงเวลาจะเหมาะกับคนที่เลิกงานแล้วมาเรียนต่อได้เลย ทำให้พี่ต้องเดินกลับบ้านตอนกลางคืนหลายครั้ง เลยอยากแนะนำน้องๆว่า ถ้าเลือกได้ควรเรียนกลางวันดีกว่าหรือถ้าต้องเรียนเวลานี้จริงๆก็อาจจะนัดกับเพื่อนๆที่พักใกล้ๆกันเพื่อกลับบ้านด้วยกันค่ะ

 

สุดท้ายคือเรื่องสภาพอากาศที่ Providence ค่ะ พี่ชอบอากาศที่นี่มาก เพราะแต่ละฤดูจะมีอากาศที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้ได้บรรยากาศที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละฤดู โดยเฉพาะฤดูหนาวคือช่วงที่พี่ชอบที่สุดเลย เพราะได้เล่นหิมะและกีฬาที่ไม่เคยเล่นหลายแบบทั้ง Snowboard, Snow tube, Cross-country ski และ Ice skate พี่เลยอยากแนะในน้องๆที่จะไปเรียนต่างประเทศทั้งเรียนภาษาและเรียนต่อเลยค่ะว่า นอกจากจะตั้งใจเรียนแล้วอย่าลืมเกี่ยวประสบการณ์รอบตัวด้วยนะคะ เที่ยวให้สนุกและ Have a great time จ้า