
นิวซีแลนด์เป็นประเทศหมู่เกาะตั้งอยู่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้ โดยพื้นที่ของประเทศนิวซีแลนด์จะประกอบไปด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะหลักๆ และมีหมู่เกาะเล็กๆ
เมืองหลวงของประเทศนี้ คือ เมืองเวลลิงตัน (Wellington) เมืองที่ถูกจดจำในอีกชื่อว่า “เมืองแห่งสายลม” เพราะว่าบริเวณที่ตั้งของเมืองเปรียบเสมือนช่องลมใหญ่ ๆ ที่รับลมได้เต็มที่ จากการตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะเหนือระหว่างช่องแคบทั้งสอง นอกจากนั้นเมืองหลวงนี้ยังเป็นศูนย์รวมศิลปวัฒนธรรม ที่ยังคงความสวยงามของสถาปัตยกรรมไม้สไตล์วิคตอเรีย และมีจุดชมวิวที่สวยงามตรึงตาระดับโลกหรือภูเขาวิคตอเรียด้วย เสน่ห์ของเมืองจะรายล้อมไปด้วยพื้นที่ธรรมชาติและชายหาดที่เดินทางไปได้ง่ายๆ
ประเทศนิวซีแลนด์เป็นอันดับที่ 2 ของโลกในเรื่องของความปลอดภัย มีการตรวจรักษาความปลอดภัย และระบบการจัดการกับคดีทั้งเล็กและใหญ่อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด สถิติอาชญากรรมในประเทศนี้จึงน้อยมาก ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในทวีปต่างๆ
คุณภาพชีวิตของประชากรที่นิวซีแลนด์จึงนับว่ามั่นคง แต่ค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าครองชีพก็จะสูงตามระดับคุณภาพชีวิตที่ได้รับ ทั้งวิวธรรมชาติอันงดงาม ความสงบร่มเย็นของบ้านเมือง ชาวเมืองที่มอบความเป็นมิตรให้เป็นปรกติ และความเชื่อในแต่ละองค์กรหรือสถาบันที่ยกให้เรื่องการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าเป็นเรื่องสำคัญพอๆ กับการเรียนหรือการทำงาน เพราะฉะนั้นใครที่ได้ไปยังประเทศนิวซีแลนด์จะได้สัมผัสกับกิจกรรมสนุกๆ นับไม่ถ้วนที่ไม่เคยได้ทำมาก่อนแน่นอน
สำหรับใครที่ไม่ได้ชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ที่นิวซีแลนด์น่าจะเป็นคำตอบในการไปเรียนต่อของคุณ เพราะภูมิอากาศโดยทั่วไปของประเทศนี้มีแนวโน้มไปทาง เย็น ๆ อุ่นถึงร้อน ไม่ต่างจากประเทศไทยมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอากาศหนาวเลย อย่างที่โอ๊คแลนด์ (Auckland) ช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดลงถึง 10 องศาเซลเซียส และยิ่งถ้าเดินทางขยับไปทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ใครที่อยากพบเจอหิมะก็จะสามารถไปเก็บความหนาวได้เต็มที่
สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีฝนตกตลอดปี ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก ลมประจำที่พัดผ่าน คือลมฝ่ายตะวันตก – กระแสน้ำอุ่นออสเตรเลียตะวันออก โดยประกอบด้วย 4 ฤดูกาล คือ
ประเทศนิวซีแลนด์ตั้งอยู่ใกล้เส้นแบ่งเวลาสากล (International Date Line) โดยเร็วกว่ามาตรฐาน กรีนิช 12 ชั่วโมง ในแต่ละปีจะมีการประกาศวันที่เปลี่ยนเวลาที่เรียกว่า Daylight Saving Time เวลาของประเทศนิวซีแลนด์ปัจจุบัน เร็วกว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม เวลาจะเร็วกว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง
ทางประเทศนิวซีแลนด์ ใช้กระแสไฟฟ้า 230 โวลต์ (V) และใช้ปลั๊กไฟแบบสามขา ฉะนั้นอย่าลืมว่า ต้องนำปลั๊กต่อไปด้วย และถ้าหากจะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยต้องใช้ Adapter ในการแปลงกระแสไฟฟ้า ให้เป็นระบบเดียวกับกระแส ไฟฟ้าซึ่งสามารถหาซื้อ Adapter ได้ที่ประเทศไทย
นิวซีแลนด์ มีวัฒนธรรม 2 แบบ คือ
ชาวนิวซีแลนด์โดยทั่วไปเป็นคนอัธยาศัยดี มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ และช่วยเหลือผู้เดินทางจาก ต่างประเทศ นอกจากนั้น เป็นคนที่ถือเรื่องการรักษาการนัดหมายอย่างเคร่งครัด การให้ทิปเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นนัก ในประเทศนิวซีแลนด์ บางครั้งบริกรจะปฏิเสธเงินค่าทิป
🇳🇿 เป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นผู้นำการศึกษาของโลก
8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของนิวซีแลนด์ ติดอันดับของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก โดย Times Higher Education World University Rankings ด้วยชื่อเสียงขอสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพระดับดีเยี่ยมนี้ ประเทศนิวซีแลนด์จึงมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับโลกเรื่องการศึกษา
🇳🇿 คุณภาพระบบการศึกษาที่ได้การยอมรับจากนานาประเทศ
มีมาตรฐานทางการศึกษาสูง โดยระบบการศึกษาจำลองแบบมาจากระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ (British based Education System) คุณภาพของระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์จึงเทียบเท่าได้กับสหราชอาณาจักรและประเทศแคนาดา
🇳🇿 โดดเด่นหลากหลายสาขา ครบทุกด้าน
มีความโดดเด่นหลากหลายสาขา ครบทุกรายวิชา เช่น บริหาร, การบัญชีการเงิน, เศรษฐศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, การบริการการท่องเที่ยว และการออกแบบ เป็นต้น หรือใครอยากไปเรียนหลักสูตรระยะสั้นและคอร์สภาษาอังกฤษก็มี
🇳🇿 ทำงานพิเศษเพิ่มประสบการณ์ หารายได้ระหว่างเรียนได้
เปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถทำงานพิเศษได้ โดยได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายการจ้างงานของรัฐบาล และหลังจากเรียนจบแล้ว นักเรียนจะยื่นขอวีซ่า Post Study Work Visa เพื่อทำงานต่อในประเทศนิวซีแลนด์ได้อีก 3 ปี
🇳🇿 ความปลอดภัยสูงอันดับต้นๆ ของโลก
เป็นอันดับ 2 ของประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก มีความสงบสุขในการอยู่อาศัย การใช้ชีวิตและการเรียน เนื่องจากมีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ และมีประชากรไม่ถึง 5 ล้านคน
🇳🇿 สวรรค์แห่งธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวมากมาย
มีธรรมชาติที่งดงาม สงบร่มเย็น อากาศดี มีระบบนิเวศน์หลากหลาย ทั้งภูเขา แม่น้ำลำคลอง และทะเล มีกิจกรรมผจญภัยอันหลากหลายให้ร่วมทำกับเพื่อน ๆ ในวันหยุดพักผ่อน
🇳🇿 ความเป็นมิตรของผู้คน
ชาวเมืองและคนในท้องถิ่นมีความเป็นมิตรสูงมาก เพราะมีชาวต่างชาติจำนวนมากพักอาศัยอยู่ในแต่ละเมือง คนนิวซีแลนด์จึงเข้าอกเข้าใจความแตกต่างในเรื่องของอารยะและวัฒนธรรม และพร้อมเปิดรับนักเรียนต่างชาติที่เดินทางไปเยือนเป็นอย่างดี
ประเทศนิวซีแลนด์กำหนดในเรื่องของการศึกษาภาคบังคับสำหรับประชาชนคนนิวซีแลนด์จนถึงระดับมัธยมศึกษา โดยทางภาครัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนให้ มีการเลื่อนชั้นโดยใช้อายุเป็นเกณฑ์ ทุกคนจะต้องเข้าเรียนตั้งแต่อายุ 6 ปี ถึงอายุ 16 ปี และหลังจากนั้นในระดับ ใครที่อยากเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาต้องออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง คุณภาพระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ได้การยอมรับในระดับเทียบเท่ากับระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร และประเทศแคนาดา นิวซีแลนด์ยังเป็นประเทศที่นักศึกษานานาชาติจากทั่วโลกให้ความสนใจ
เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เปิดให้การศึกษาอบรมสายอาชีพ เน้นด้านอุตสาหกรรมธุรกิจและการพาณิชย์ มีสาขาวิชาให้เลือกมากถึง 150 สาขา มีหลักสูตรตั้งแต่ประกาศนียบัตร อนุปริญญา จนถึงปริญญาตรี และสามารถโอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยได้
สถาบันเทคโนโลยีและโพลีเทคนิคมีทั้งหมด 17 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการอบมหลักสูตรสั้นๆ และหลักสูตรสอนภาษาอังกฤษอีกด้วย
มหาวิทยาลัยในประเทศนิวซีแลนด์มีด้วยกันทั้งหมด 8 แห่ง และเป็นของรัฐบาลทั้งหมด มหาวิทยาลัยเหล่านี้กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยอยู่ที่ เกาะเหนือ 5 แห่ง เกาะใต้ 3 แห่ง
เกาะเหนือ
1.The University of Auckland – [Auckland (โอ๊คแลนด์)]
2. The University of Waikato – [Hamilton (แฮมิลตัน)]
3. Victoria University of Wellington – [Wellington (เวลลิงตัน)]
4. Auckland University of Technology – [Auckland (โอ๊คแลนด์)]
5. Massey University – [Palmerston North (พัลเมอร์สตันท์ นอร์ท), Wellington (เวลลิงตัน), Auckland (โอ๊คแลนด์)]
เกาะใต้
6. The University of Otago [Dunedin (ดะนีดิน)]
7. The University of Canterbury [Christchurch (ไครสต์เชิร์ช)]
8. Lincoln University [Christchurch (ไครสต์เชิร์ช)]
สถาบันสอนภาษาอังกฤษมีทั้งที่เป็นของเอกชนและที่ขึ้นตรงต่อมหาวิทยาลัยหรือสถาบันเทคโนโลยีและโพลีเทคนิค ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลคุณภาพของหลักสูตรโดยเปิดสอนทั้งหลักสูตรระยะสั้น (ตั้งแต่ 4 สัปดาห์) และระยะยาว (1 ปี) ใช้วิธีการสอนที่ทันสมัยและส่วนใหญ่จะเปิดรับนักศึกษาใหม่ตลอดทั้งปี
การเข้าเรียนภาษาอังกฤษในสถาบันสอนภาษาของมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ได้หมายความว่านักเรียนจะได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้นๆ ทันทีมหาวิทยาลัยบางแห่งบังคับให้นักศึกษาทุกคนสอบ TOEFL หรือ IELTS อย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดก่อน แล้วจึงจะดำเนินการสมัครได้